post

เป๊ป เตือนทีม แมนฯ ซิตี้ อย่าหลงผิดคิดว่าฤดูกาลนี้ประสบความสำเร็จ

ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เตรียมตัวสำหรับการลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ (FA Cup) กุนซือ เป็ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าทีมของเขาไม่ควร “หลงผิด” คิดว่าฤดูกาลนี้ประสบความสำเร็จ แม้จะมีโอกาสคว้าถ้วยรางวัล “ความเสียหายจะน้อยสุด แต่มันไม่ได้หมายความว่าฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ดี” กวาร์ดิโอลา กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “สโมสรต้องตัดสินใจ ตัดสินใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ฤดูกาลหน้าดีขึ้น” คำพูดของกุนซือชาวสเปนสะท้อนความผิดหวังอย่างลึกซึ้งหลังจากสูญเสียตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League) ที่ครองมายาวนานสี่ฤดูกาลติดต่อกันให้กับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ซึ่งได้รับการประกาศเป็นแชมป์อย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ความห่างกัน 21 คะแนนระหว่าง ซิตี้ กับทีมของ อาร์เน่ สล็อต (Arne Slot) เป็นสิ่งที่ กวาร์ดิโอลา เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เราตามหลัง ลิเวอร์พูล หลายล้านคะแนน ผมพูดหลายครั้งแล้วว่าฤดูกาลนี้ไม่ได้ดีเพราะเรามักวัดความสำเร็จด้วย พรีเมียร์ลีก”

 

ความหวังใหม่จากเอฟเอ คัพ นี่คือความสำเร็จเดียว ที่ทีมจะทำมันได้ในฤดูกาลนี้

 

แม้จะมีความผิดหวังในลีก แต่ซิตี้ยังคงมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ใน เอฟเอ คัพ เมื่อพวกเขาเอาชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ในรอบรองชนะเลิศ ด้วยประตูจาก ริโก ลูอิส (Rico Lewis) และ ยอสโก กวาร์ดิโอล (Josko Gvardiol) การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่สามติดต่อกันเปิดโอกาสให้พวกเขาได้คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นครั้งที่ 8 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ขณะที่คู่แข่งอย่าง คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace) ไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่มาก่อน นัดชิงชนะเลิศกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม จะเป็นโอกาสสุดท้ายของ ซิตี้ ที่จะได้แชมป์รายการใหญ่ในฤดูกาลนี้ แทงบอล sbobet นอกเหนือจาก คอมมูนิตี้ ชิลด์ (Community Shield) ที่พวกเขาคว้ามาได้ในช่วงต้นฤดูกาล การเดินทางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล 2024/25 เต็มไปด้วยความผันผวน พวกเขาเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการไม่แพ้ใคร 13 เกมติดต่อกัน ทำให้หลายคนเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งที่ห้าติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางฤดูกาลกลับเป็นภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อ ซิตี้ ชนะเพียงหนึ่งเกมจาก 13 เกมในทุกรายการ พวกเขาตกไปอยู่อันดับเจ็ดในวันบ็อกซิ่งเดย์หลังจากเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน (Everton) 1-1 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของฤดูกาลสำหรับแชมป์เก่า ความผิดหวังไม่ได้มีเฉพาะในลีกเท่านั้น ความพ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด (Real Madrid) ในรอบน็อคเอาท์เพลย์ออฟของ แชมเปี้ยนส์ลีก (Champions League) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้พวกเขาตกรอบเร็วที่สุดในรอบ 12 ปี นับเป็นการปิดโอกาสที่จะป้องกันแชมป์ยุโรปที่พวกเขาคว้ามาได้ในฤดูกาลที่แล้ว ความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายต่อ อาร์เซนอล (Arsenal) 5-1 ในเดือนกุมภาพันธ์ และการแพ้ต่อ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ที่ ซิตี้ กราวด์ ในเดือนมีนาคม ยิ่งตอกย้ำถึงฟอร์มที่ตกต่ำของพวกเขา แม้จะเผชิญกับความยากลำบาก แต่ทีมของ กวาร์ดิโอลา ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจและความสามารถในการฟื้นตัว ซิตี้ ชนะหกจากเจ็ดเกมล่าสุด รวมถึงชัยชนะ 2-1 ในนาทีสุดท้ายเหนือ แอสตัน วิลลา (Aston Villa) คู่แข่งในอันดับท็อปไฟว์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา การฟื้นตัวนี้ช่วยให้พวกเขาปีนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สี่ของตาราง แทงบอล sbobet และมีโอกาสที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญหลังจากความผิดหวังในลีก ริโก ลูอิส นักเตะดาวรุ่งวัย 20 ปี ที่โชว์ฟอร์มน่าประทับใจในตำแหน่งกองกลางในเกมล่าสุด มองในแง่บวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของทีม “เราอาจจะหาข้อแก้ตัวได้ แต่มันไม่ดีพอในช่วงต้นฤดูกาล และตอนนี้เรากำลังฟื้นตัวและมีโมเมนตัม” ลูอิส กล่าว

“เรามีโอกาสได้แชมป์แล้วตอนนี้ และหวังว่าจะอยู่ในสี่อันดับแรกเพื่อเอาไปใช้ในฤดูกาลหน้า เราแสดงให้เห็นถึงตัวตน ในฤดูกาลนี้เราแสดงให้เห็นถึงตัวตน มันไม่ได้ราบรื่น แต่เราลุกขึ้นมาและแสดงให้เห็นว่าเราเป็นทีมชั้นนำ”

 

บทเรียนสุดสำคัญสำหรับการก้าวเดินต่อไปในอนาคต ของทีม เรือใบสีฟ้า

 

มาเตโอ โควาชิช (Mateo Kovacic) กองกลางคนสำคัญของทีม แสดงความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของทีมเมื่อทุกคนฟิตสมบูรณ์ “เราค้นพบตัวเองอีกครั้ง ทีมกำลังแข็งแกร่งขึ้น ทุกคนมีสมาธิ 100% นักเตะหลายคนกลับมาอย่างแข็งแกร่งมาก” โควาชิช กล่าว “เมื่อเราทุกคนกลับมา เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ฤดูกาลนี้ไม่เป็นไปอย่างที่เราต้องการ แต่เราได้เข้าชิง เอฟเอ คัพ อีกครั้งและอยู่ในสี่อันดับแรก”

ความท้าทายหลักของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้คือการรักษาความสม่ำเสมอตลอดทั้งแคมเปญ ปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นคนสำคัญ รวมถึงความเหนื่อยล้าจากการเล่นหลายรายการติดต่อกันหลายฤดูกาล ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวมของทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ “ตัดสินใจที่ถูกต้อง” สำหรับฤดูกาลหน้า ซึ่งอาจหมายถึงการเสริมทัพครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ การปรับเปลี่ยนยุทธวิธีการเล่น หรือแม้แต่การพักผู้เล่นคนสำคัญในช่วงที่ตารางแข่งขันแน่น แม้ว่าฤดูกาล 2024/25 จะไม่เป็นไปตามที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาดหวัง แต่ยังมีบทเรียนมากมายที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ในอนาคต การสูญเสียตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นในการรีเซ็ตและฟื้นฟูทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาหลายปี ชัยชนะใน เอฟเอ คัพ จะเป็นการปลอบใจเล็กน้อยสำหรับทีมที่เคยชินกับการคว้าแชมป์หลายรายการในฤดูกาลเดียว แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูและการกลับมาอย่างแข็งแกร่งในฤดูกาลหน้า การกลับมาของผู้เล่นสำคัญจากอาการบาดเจ็บ การพัฒนาของนักเตะดาวรุ่งอย่าง ริโก ลูอิส และการเติบโตของผู้เล่นใหม่อย่าง ยอสโก กวาร์ดิโอล เป็นสัญญาณบวกสำหรับอนาคตของสโมสร เป๊ป กวาร์ดิโอลา และทีมงานมีงานหนักในช่วงซัมเมอร์นี้ในการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและหาทางแก้ไข แต่ด้วยประวัติอันยาวนานของความสำเร็จและทรัพยากรมากมายที่มีอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่น่ากลัวที่สุดในฟุตบอลโลก ขณะที่พวกเขาเตรียมตัวสำหรับนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 17 พฤษภาคม ข้อความจาก กวาร์ดิโอลา นั้นชัดเจน อย่าพอใจกับความสำเร็จเพียงเล็กน้อย แต่มุ่งหน้าสู่การกลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้งในฤดูกาลหน้า

post

รูเบน อาโมริม เชื่อ การไม่เสริมนักเตะในเดือนมกราคม จะส่งผลดีในอนาคต

รูเบน อาโมริม (Ruben Amorim) เฮดโค้ชของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) ยืนยันว่า การตัดสินใจไม่เสริมทัพแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) และ อันโทนี (Antony) ในตลาดซื้อขายเดือนมกราคม เป็นแผนที่วางไว้เพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของสโมสร แม้ว่าสถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้จะดูไม่สู้ดีนักก็ตาม

ตัดสินใจเสี่ยงเพื่ออนาคตของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

หลังจากปล่อยตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ไปอยู่กับ แอสตัน วิลลา (Aston Villa) และ อันโทนี (Antony) ให้ เรอัล เบติส (Real Betis) ยืมตัว อาโมริม (Ruben Amorim) ตัดสินใจไม่ซื้อนักเตะใหม่มาเสริมทีม เขามองว่าแม้จะเป็นความเสี่ยง แต่สิ่งที่ทำอยู่นั้นมีเป้าหมายเพื่อการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับสโมสรในอนาคต

อาโมริม กล่าวว่า “เราสูญเสียผู้เล่นในเดือนมกราคม แต่ไม่ได้หาคนมาแทน นั่นเป็นความเสี่ยง แต่สิ่งที่เรากำลังทำสำคัญกว่าการทำประตูเพิ่มอีก 10 ลูกในฤดูกาลนี้ มันคือการวางรากฐานเพื่ออนาคตของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United)”

แม้จะเผชิญกับการขาดผู้เล่นสำคัญ และอาการบาดเจ็บของ โจชัว เซิร์กซี (Joshua Zirkzee) แต่ อาโมริม ยังยืนยันว่าจะยึดมั่นกับแนวทางที่วางไว้

ประสบการณ์ที่สำคัญสำหรับอนาคต

การเข้ามารับตำแหน่งกลางฤดูกาลทำให้ อาโมริม (Ruben Amorim) ต้องปรับตัวอย่างหนัก เจ้าตัวยอมรับว่าในช่วงแรกมีความลังเลใจว่า ควรรอเริ่มงานหลังจบฤดูกาลดีหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อหารือกับ โอมาร์ เบร์ราดา (Omar Berrada) ซีอีโอของสโมสร

อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไป อาโมริม กลับมองว่า ความยากลำบากในช่วงนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ช่วยให้ทีมเติบโตในระยะยาว “นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในรอบหลายปี เราจะนำบทเรียนทั้งหมดมาวางแผนเพื่ออนาคตที่แข็งแกร่งกว่าเดิม” เขากล่าว

เป้าหมายชัดเจน แม้ฤดูกาลนี้น่าผิดหวัง

แม้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) จะมีโอกาสจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่อาโมริมยังมองเห็นโอกาสในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เพื่อกลับมาลุ้นความสำเร็จในอนาคต

ในช่วงเวลาที่ความผิดหวังปกคลุม โค้ชชาวโปรตุเกสยังคงยืนยันว่า ไม่มีความเสียใจในการตัดสินใจครั้งนี้ และพร้อมจะเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาวเพื่อพา “ปีศาจแดง” กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

าคุณกำลังมองหาเว็บพนันเชื่อถือได้ ลองดูที่ hujanlapan สิ เพื่อนแนะนำให้สมัครสมาชิกกับ hujanlapan เพราะมีโปรโมชั่นดีๆ มากมาย

post

ดอร์ทมุนด์ สู้สุดใจ แม้พลาดตั๋วรอบรองฯ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

แม้จะสามารถคว้าชัยชนะในเลกสองอย่างน่าประทับใจ แต่ความเสียเปรียบจากเกมแรกทำให้ ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) ไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ โดยพวกเขาเอาชนะ บาร์เซโลนา (Barcelona) ไปได้ 4-1 แต่ยังคงตกรอบด้วยสกอร์รวม 5-4

เซอร์ฮู กีราสซี ซัดแฮตทริก จุดประกายความหวัง

กองหน้าทีมชาติกีนีอย่าง เซอร์ฮู กีราสซี (Serhou Guirassy) เป็นฮีโร่ของเกมนี้ ด้วยการยิงแฮตทริกสุดร้อนแรง เริ่มจากลูกยิงจุดโทษแบบปาเนนก้าในนาทีที่ 11 หลังจากที่ วอยเซียค เชสนี (Wojciech Szczesny) นายทวารของ บาร์เซโลนา (Barcelona) ทำฟาวล์ ปาสคาล กรอสส์ (Pascal Gross) ต่อมาในครึ่งหลังเขายิงอีกสองประตู หนึ่งลูกในนาทีที่ 49 และอีกลูกในนาทีที่ 76 ซึ่งปลุกกำลังใจให้กับเจ้าถิ่นจนแฟนบอลส่งเสียงเชียร์สนั่นสนาม

บาร์เซโลนา ผ่านเข้ารอบแบบหืดจับ

บาร์เซโลนา (Barcelona) ที่มีสกอร์รวมจากเลกแรกนำอยู่ถึง 4-0 เริ่มต้นเกมด้วยความมั่นใจ แม้จะถูกยิงขึ้นนำและโดนบุกอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ยังสามารถรักษาความได้เปรียบไว้ได้ หนึ่งในจังหวะสำคัญคือการที่ รามี เบนเซไบนี (Ramy Bensebaini) ของ ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) ทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 54 ซึ่งกลายเป็นประตูที่ทำให้ บาร์เซโลนา (Barcelona) ได้เปรียบอย่างยิ่งใหญ่ด้วยสกอร์รวม 5-2 ในขณะนั้น

แม้ว่าในช่วงท้ายเกม ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) จะเร่งเกมบุกและเกือบยิงเพิ่มได้จาก ยูเลียน บรันด์ท (Julian Brandt) แต่ลูกยิงของเขาถูกปฏิเสธจากธงล้ำหน้า ทำให้ความหวังในการเข้าสู่รอบรองฯ ต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย

บาร์เซโลนา รอพบ อินเตอร์ มิลาน หรือ บาเยิร์น มิวนิค 

จากผลการแข่งขันนี้ บาร์เซโลนา (Barcelona) ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 และพวกเขาจะต้องรอพบผู้ชนะระหว่าง อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) ที่มีสกอร์นำอยู่ 2-1 จากเกมแรก กับ บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ในเกมเลกสองที่สนามซาน ซิโร

การกลับมาอีกครั้งของ บาร์เซโลนา (Barcelona) บนเวทียุโรปในฤดูกาลนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังใหม่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของทีม

ความสะดวกสบายในการฝากถอนเงินกับ sbobet 888 ทำให้ผู้เล่นสามารถเดิมพันได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ด้วยประสบการณ์ยาวนานในวงการเดิมพัน sbobet 888 จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้เล่นทั่วโลก

post

โรนัลโด้ยิงเบิ้ลพาอัล นาสร์คว้าชัยศึกดาร์บี้ริยาด

โรนัลโด้ยิงเบิ้ลพาอัล นาสร์คว้าชัยศึกดาร์บี้ริยาด

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo) ยิงสองประตูในครึ่งหลัง รวมถึงจุดโทษหนึ่งลูก ช่วยให้อัล นาสร์เซอร์ (Al Nassr) ชนะอัล ฮิลาล (Al Hilal) 3-1 ในศึกดาร์บี้เมืองริยาด เมื่อวันศุกร์ ในเกมลุ้นแชมป์ซาอุดี โปรลีก ทดลอง แทงบอล

 

แม้ชัยชนะครั้งนี้จะทำให้อัล นาสร์ยังคงอยู่ในอันดับ 3 มี 54 คะแนน แต่ก็ไล่จี้อัล ฮิลาล ทีมอันดับ 2 เหลือ 3 แต้ม และตามหลังจ่าฝูงอย่างอัล อิตติฮัดอยู่ 7 คะแนน ซึ่งอัล อิตติฮัดจะออกไปเยือนอัล อาห์ลีในวันเสาร์

 

อัล นาสร์ได้ประตูขึ้นนำก่อนในช่วงก่อนพักครึ่ง จากจังหวะที่อาลี อัล ฮัสซัน ปั่นบอลโค้งผ่านมือ ยาสซิน โบโน่ นายทวารอัล ฮิลาลเข้าไป

 

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาที โรนัลโด้ก็บวกสกอร์ให้ทีมเป็น 2-0 ด้วยการยิงสุดเฉียบหลังจากรับบอลจากซาดิโอ มาเน่

 

แชมป์เก่าอย่างอัล ฮิลาล พยายามตีไข่แตกด้วยเกมสวนกลับ และก็มาได้ประตูไล่มา 1-2 ในนาทีที่ 62 จากลูกโหม่งระยะเผาขนของอาลี อัล บูไลฮี จากจังหวะเตะมุม

 

อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้มายิงจุดโทษปิดกล่องในนาทีที่ 88 หลังจาก VAR ตรวจสอบว่า มูเต็บ อัล ฮาร์บี ตัวสำรองของอัล ฮิลาล ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ

 

ประตูนี้นับเป็นประตูที่ 70 ของโรนัลโด้ในซาอุดี โปรลีก และยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายการทำ 1,000 ประตูในอาชีพ ทดลอง แทงบอล

 

“ชัยชนะนี้มาจากความพยายามของทั้งทีม การที่ผมทำประตูได้ก็สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการคว้าชัยชนะ” โรนัลโด้ให้สัมภาษณ์กับ SSC

 

“ผมทำงานหนักเพื่อช่วยทีมทั้งในลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก และไม่ได้โฟกัสที่สถิติส่วนตัวเลย” เขากล่าวเสริม

 

post

PGMOL ยอมรับว่า เจมส์ ทาร์คอฟสกี ควรได้รับใบแดง

องค์กรผู้ตัดสินของพรีเมียร์ลีก (PGMOL) ได้ออกมายืนยันว่า เจมส์ ทาร์คอฟสกี (James Tarkowski) กองหลังของ เอฟเวอร์ตัน (Everton) ควรได้รับใบแดงจากการเข้าสกัด อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (Alexis Mac Allister) ในเกมที่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ที่สนามแอนฟิลด์

จังหวะปัญหาในการแข่งขัน

ในนาทีที่ 11 ของการแข่งขัน ทาร์คอฟสกี (Tarkowski) เข้าสกัดบอลแต่พลาดไปโดน แม็ค อัลลิสเตอร์ (Mac Allister) ด้วยสตั๊ดบริเวณใต้เข่า ผู้ตัดสิน แซม บาร์รอตต์ (Sam Barrott) ให้ใบเหลืองแก่กองหลังเอฟเวอร์ตัน และ VAR ที่มี พอล เทียร์นีย์ (Paul Tierney) เป็นผู้ดูแล ตัดสินใจไม่เปลี่ยนคำตัดสิน

อย่างไรก็ตาม หลังจากทบทวนเหตุการณ์ PGMOL ยืนยันว่าการเข้าปะทะของทาร์คอฟสกีเข้าข่ายการทำฟาวล์รุนแรง และควรได้รับใบแดง โดยมองว่า VAR ควรเรียกให้ผู้ตัดสินในสนามตรวจสอบเหตุการณ์ผ่านจอมอนิเตอร์อีกครั้ง

ปฏิกิริยาจาก ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน 

หลังจบการแข่งขัน ลิเวอร์พูล (Liverpool) ได้รับการติดต่อจาก PGMOL เพื่อแจ้งถึงข้อผิดพลาดในการตัดสิน ขณะที่ อาร์เน่ สล็อต (Arne Slot) กุนซือลิเวอร์พูลกล่าวว่า

“ถือเป็นเรื่องดีที่พวกเขายอมรับความผิดพลาด ผมคิดว่าฤดูกาลนี้ผู้ตัดสินในอังกฤษทำผลงานได้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือไม่ควรมีผลต่ออันดับในลีก”

ในฝั่งของ เอฟเวอร์ตัน (Everton) ผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์ (David Moyes) ยอมรับว่า ทาร์คอฟสกี (Tarkowski) โชคดีที่ไม่ถูกไล่ออกจากสนาม และนักเตะเองก็ได้กล่าวขอโทษ แม็ค อัลลิสเตอร์ (Mac Allister) หลังจบเกม

VAR และความโปร่งใสของ PGMOL

PGMOL ยืนยันว่าต้องการให้การตัดสินมีความโปร่งใสมากขึ้น จึงออกมายอมรับข้อผิดพลาดโดยทันที แทนที่จะรอให้ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (Howard Webb) หัวหน้าผู้ตัดสินออกมาอธิบายในภายหลัง

นอกจากเหตุการณ์ของ ทาร์คอฟสกี (Tarkowski) แล้ว ยังมีอีกจังหวะที่เป็นที่ถกเถียง นั่นคือ ประตูชัยของ ดิโอโก้ โชต้า (Diogo Jota) ซึ่งทาง เอฟเวอร์ตัน (Everton) มองว่ามีจังหวะล้ำหน้าเกิดขึ้นก่อน อย่างไรก็ตาม PGMOL ยืนยันว่าการให้เป็นประตูนั้นถูกต้อง เพราะ หลุยส์ ดิอาซ (Luis Diaz) ซึ่งอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเล่น

การตัดสินของ VAR ในฤดูกาลนี้

ในอัปเดตเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พรีเมียร์ลีกเปิดเผยว่ามีข้อผิดพลาดของ VAR 13 ครั้ง ในฤดูกาลนี้ ซึ่งลดลงจาก 20 ครั้ง ในช่วงเดียวกันของฤดูกาลที่แล้ว แบ่งเป็น 4 ครั้งที่ VAR ตัดสินผิดพลาด และ 9 ครั้งที่ VAR ไม่เข้าแทรกแซง

พรีเมียร์ลีกยังอ้างว่า อัตราความแม่นยำของการตัดสินจังหวะสำคัญอยู่ที่ 96.4% ซึ่งสูงขึ้นจาก 95.7% ในช่วงเดียวกันของฤดูกาลก่อน

การยอมรับความผิดพลาดจาก PGMOL อาจช่วยลดแรงกดดันต่อผู้ตัดสิน แต่สิ่งสำคัญคือการพัฒนาระบบ VAR ให้มีความแม่นยำและสอดคล้องกับมาตรฐานของพรีเมียร์ลีก

หากคุณกำลังมองหา เว็บแทงบอล ที่มีอัตราต่อรองดีที่สุด ควรเลือกเว็บที่ได้รับการรับรองจากสถาบันกีฬาชั้นนำ หลายคนเลือกใช้ เว็บแทงบอล ที่รองรับการฝาก-ถอนผ่านระบบอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว